ประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยธนบุรี



-------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดแห่งชาติ
ชื่อผู้แต่ง สุภฤกษ์ บุญทอง. ชื่อ ประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยธนบุรี. สถานที่พิมพ์ ปทุมธานี. สำนักพิมพ์ สกายบุ๊คส์. 2554. 162 หน้า.
------------------------------------------------------------------------

   สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ สมเด็จพระบรมราชาที่ 4  มีพระนามเดิมว่า สิน พระราชบิดาเป็นชาวจีนแต้จิ๋ว ได้สมรสกับหญิงไทยชื่อ นกเอี้ยง ภายหลังเป็นกรมพระเทพามาตย์
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงปราบดาภิเษกขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยาในทางพิธีการ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2310 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในสมัยอาณาจักรธนบุรี ขณะพระชนมายุได้ 34 พรรษา พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 เมื่อมีพระชนมายุได้ 48 พรรษา พระราชโอรส-พระราชธิดา รวมทั้งสิ้น 30 พระองค์
พระราชกรณียกิจที่สำคัญในรัชสมัยของพระองค์ คือ การกอบกู้เอกราชจากพม่าภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง โดยขับไล่ทหารพม่าออกจากราชอาณาจักรจนหมดสิ้น และยังทรงทำสงครามตลอดรัชสมัยเพื่อรวบรวมแผ่นดินซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของขุนศึกก๊กต่าง ๆ ให้เป็นปึกแผ่น เช่นเดียวกับขยายพระราชอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูประเทศในด้านต่าง ๆ ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติหลังสงคราม ทรงส่งเสริมทางด้านเศรษฐกิจ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม วรรณกรรม และการศึกษา เนื่องจากพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อแผ่นดินไทย รัฐบาลจึงได้ประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปีเป็น "วันสมเด็จพระเจ้าตากสิน" และยังทรงได้รับสมัญญานามมหาราช
        สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 9 คำพ่อสอน นิสัยแห่งความดี ดังนี้
        1.ความเพียร คือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงงานหนักตลอดรัชสมัย มีความเพียรพยายามตั้งใจทำสิ่งที่มุ่งหวังให้สำเร็จ
        2.ความรู้ตน คือ พระองค์ทรงใช้พระอัฉริยภาพและพระปรีชาสามารถในการบริหารบ้านเมือง และฟื้นฟูบ้านเมือง ให้ประเทศของตนเองอยู่ดีมีสุข
3.พูดจริงทำจริง
        4.ความซื่อสัตย์ คือ พระองค์ทรงเป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ ไม่ทิ้งประชาชนในยามประชาชนทุกข์ยาก
5.การเอาชนะใจตนเอง คือ พระองค์ทรงมีพระอัจริยะภาพเเละพระปรีชาสามารถในการบริหารบ้านเมือง ทรงกล้าหาญเเละทรงกระทำเเต่สิ่งที่ดีงาม
        6.หนังสือเป็นออมสินแห่งความรู้ หนังสือเป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นคล้ายๆธนาคารความรู้เพื่อให้เราหาความรู้ ไว้ศึกษา
        7.อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ คือ พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่เข้มแข็ง ทรงทำงานและวางแผนบ้านเมืองในด้านต่างๆ และพระองค์เป็นคนอ่อนโยน ช่วยเหลือประชาชนให้พ้นกับความทุกข์ยาก
       8.คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ คือ พระองค์ทรงเป็นผู้ให้ ทรงช่วยเหลือชาวเมือง บรรเทาทุกข์ บำรุงสุข เพื่อให้ชาวธนบุรีได้อยู่ดีกินดี มีความสุข
       9.ความพอดี คือ พ่อขุนรามคำเเหงได้จัดการประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมืองได้อย่างพอดี ประชาชนอยู่ดีกินดี สภาพบ้านเมืองก้าวหน้า 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น