-------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดเเห่งชาติ
ชื่อผู้เเต่ง สละ นาคบำรุง. ชื่อ พ่อขุนรามคำเเหง 2 "ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา" สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ. สำนักพิมพ์ อมรินทร์คอมมิกส์. 2552. 143 หน้า
-------------------------------------------------------------------------
พ่อขุนรามคำเเหงทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เรายกย่องว่าเป็นมหาราชพระองค์เเรกของไทย ทรงรวบรวมอาณาจักรไทยเป็นเเผ่นปึกกว้างขวาง ทรงประดิษฐ์อักษรไทย ทรงให้เสรีภาพในการค้าขาย การทำมาหากิน ทรงปกครองประชาชนพลเมืองเเบบพ่อปกครองลูก เเละทรงสนับสนุนพระพุทธศาสนาให้มั่นคงเป็นปึกเเผ่น
" โดยสรุปก็คือ สิ่งที่พระองค์กระทำนั้น คือการวางรากฐานให้เเก่ประเทศไทยในปัจจุบันนั่นเอง "
ความสำคัญอย่างยิ่งยวดเเห่งรัชสมัยพ่อขุนรามคำเเหงก็คือ การท่อให้เกิดสถาบันหลักเเละดำรงอยู่อ ย่างมั่นคงจนมาถึงทุกวันนี้ นั่นก็คือ สถาบันชาติ ซึ่งก็คือความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ทั้งในรูปเเบบเศรษฐกิจ การปกครอง ที่เกี่ยวเนื่องอย่างไม่เเยกขาดจาก สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเหมือนหลักชัยของประเทศ กับ สถาบันศาสนา ที่พ่อขุนรามได้ทรงนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการปกครอง ที่ทำให้ประชาชนมีหลักยึด มีความประพฤติอยู่ในธรรม
ประเทศไทยมีประวัติศาสตร์นับเนื่องมาอย่างยาวนาน ก็เพราะชาติไทยของเรามีหลักยึดถือ เเละหลักยึดถือที่ว่าก็คือ "ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ " ที่เริ่มต้นในรัชสมัยของพ่อขุนราคำเเหงนี่เอง
ทรงคิดประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นใช้แทนตัวอักษรขอมที่เคยใช้กันมาแต่เดิม เมื่อ พ.ศ. 1826 เรียกว่า “ลายสือไทย” และได้มีการพัฒนาการมาเป็นลำดับจนถึงอักษรไทยในยุคปัจจุบัน ทำให้คนไทยมีอักษรไทยใช้มาจนถึงทุกวันนี้
2.ความรู้ตน คือ พ่อขุนรามคำเเหงได้นำความรู้เเละได้จัดการพัฒนาปกครองให้สุโขทัยมีความสงบสุข
3.ความพอดี คือ นอกจากพ่อขุนรามคำเเหงได้จัดการประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมืองแล้ว พ่อขุนรามคำแหงทรงที่จะจัดการประเทศในเรื่องของศาสนา เพราะศาสนาเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนให้มีแต่ความพอดี
4.พูดจริงทำจริง คือ พ่อขุนรามคำเเหงทรงเป็นผู้ที่ทรงรักษาคำสัตย์ได้ดี ทรงได้วางรากฐานไว้ให้ชาติ คือ สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
5.ความซื่อสัตย์ คือ พ่อขุนรามคำเเหงได้ปกครองกรุงสุโขทัยด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เคยคดโกงทรัพย์สินเเผ่นดิน นำเงินมาทำสาธารณะประโยชน์ให้เเผ่นดิน
6.การเอาชนะใจตนเอง คือ พ่อขุนรามคำเเหงทรงมีพระอัจริยาภาพเเละพระปรีชาสามารถนอกเหนือจากการบริหารบ้านเมือง ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพราะเป็นศาสนาประจำชาติ ทรงกล้าหาญเเละทรงกระทำเเต่สิ่งที่ดีงาม
7.หนังสือเป็นออมสิน คือ สามารถนำเรื่องราว พระราชประวัติ ศึกษาเเละสามารถนำมาประยุกต์ใช้ดำเนินชีวิตประจำวันได้
8.อ่อนโยนเเต่ไม่อ่อนเเอ คือ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เข้มเเข็ง เเต่เป็นคนอ่อนโยน ช่วยเหลือประชาชนในยามลำบาก
9.คนเราจะต้องรับเเละจะต้องให้ คือ พระองค์ทรงเป็นผู้ให้ ทรงช่วยเหลือชาวเมือง บรรเทาทุกข์ บำรุงสุข เพื่อให้ชาวเมืองสุโขทัยได้อยู่ดีกินดี มีความสุข
" โดยสรุปก็คือ สิ่งที่พระองค์กระทำนั้น คือการวางรากฐานให้เเก่ประเทศไทยในปัจจุบันนั่นเอง "
ความสำคัญอย่างยิ่งยวดเเห่งรัชสมัยพ่อขุนรามคำเเหงก็คือ การท่อให้เกิดสถาบันหลักเเละดำรงอยู่อ ย่างมั่นคงจนมาถึงทุกวันนี้ นั่นก็คือ สถาบันชาติ ซึ่งก็คือความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ทั้งในรูปเเบบเศรษฐกิจ การปกครอง ที่เกี่ยวเนื่องอย่างไม่เเยกขาดจาก สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเหมือนหลักชัยของประเทศ กับ สถาบันศาสนา ที่พ่อขุนรามได้ทรงนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการปกครอง ที่ทำให้ประชาชนมีหลักยึด มีความประพฤติอยู่ในธรรม
ประเทศไทยมีประวัติศาสตร์นับเนื่องมาอย่างยาวนาน ก็เพราะชาติไทยของเรามีหลักยึดถือ เเละหลักยึดถือที่ว่าก็คือ "ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ " ที่เริ่มต้นในรัชสมัยของพ่อขุนราคำเเหงนี่เอง
ทรงคิดประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นใช้แทนตัวอักษรขอมที่เคยใช้กันมาแต่เดิม เมื่อ พ.ศ. 1826 เรียกว่า “ลายสือไทย” และได้มีการพัฒนาการมาเป็นลำดับจนถึงอักษรไทยในยุคปัจจุบัน ทำให้คนไทยมีอักษรไทยใช้มาจนถึงทุกวันนี้
โปรดให้จารึกเรื่องราวบางส่วนที่เกิดในสมัยของพระองค์ โดยปรากฏอยู่ในศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ 1 ทำให้คนไทยยุคหลังได้ทราบ และนักประวัติศาสตร์ได้ใช้ศิลาจารึกดังกล่าวเป็นข้อมูลหลักฐานในการศึกษาค้นคว้าเรื่องราวประวัติศาสตร์สุโขทัย
ทรงรับเอาพระพุทธศาสนา นิกายเถรวาท ลัทธิลังกาวงศ์ จากลังกา ผ่านเมืองนครศรีธรรมราช มาประดิษฐานที่เมืองสุโขทัย ทำให้พระพุทธศาสนาวางรากฐานมั่นคงในอาณาจักรสุโขทัย และเผยแผ่ไปยังหัวเมืองต่างๆในราชอาณาจักรสุโขทัย จนกระทั่งได้กลายเป็นศาสนาประจำชาติไทยมาจนถึงทุกวันนี้
เมื่อพระพุทธศาสนาได้มาตั้งมั่นที่นครศรีธรรมราช พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาจึงให้นิมนต์พระเถระชั้นผู้ใหญ่จากเมืองนครศรีธรรมราชไปตั้งเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่กรุงสุโขทัยด้วย และนับเป็นการเริ่มการเจริญสัมพันธไมตรีกับลังกา อีกทั้งทรงได้สดับกิตติศัพท์ของ "พระพุทธสิหิงค์" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เจ้าราชวงศ์ลังกาสร้างขึ้นด้วยพระพุทธลักษณะที่งดงาม และมีความศักดิ์สิทธิ์ จึงทรงให้พระยานครศรีธรรมราช เจ้าประเทศราชแต่งสาส์นให้ทูตถือไปยังลังกา เพื่อขอเป็นไมตรีและขอพระราชทานพระพุทธสิหิงค์มาเพื่อเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองไทยสืบไป
สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันสอดคล้อง 9 คำพ่อสอน "นิสัยแห่งความดี" ดังนี้
1.ความเพียร คือ การที่พ่อขุนรามคำแหงทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองในด้านต่างๆด้วยความเพียร มุมานะ และอดทน
2.ความรู้ตน คือ พ่อขุนรามคำเเหงได้นำความรู้เเละได้จัดการพัฒนาปกครองให้สุโขทัยมีความสงบสุข
3.ความพอดี คือ นอกจากพ่อขุนรามคำเเหงได้จัดการประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมืองแล้ว พ่อขุนรามคำแหงทรงที่จะจัดการประเทศในเรื่องของศาสนา เพราะศาสนาเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนให้มีแต่ความพอดี
4.พูดจริงทำจริง คือ พ่อขุนรามคำเเหงทรงเป็นผู้ที่ทรงรักษาคำสัตย์ได้ดี ทรงได้วางรากฐานไว้ให้ชาติ คือ สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
5.ความซื่อสัตย์ คือ พ่อขุนรามคำเเหงได้ปกครองกรุงสุโขทัยด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เคยคดโกงทรัพย์สินเเผ่นดิน นำเงินมาทำสาธารณะประโยชน์ให้เเผ่นดิน
6.การเอาชนะใจตนเอง คือ พ่อขุนรามคำเเหงทรงมีพระอัจริยาภาพเเละพระปรีชาสามารถนอกเหนือจากการบริหารบ้านเมือง ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพราะเป็นศาสนาประจำชาติ ทรงกล้าหาญเเละทรงกระทำเเต่สิ่งที่ดีงาม
7.หนังสือเป็นออมสิน คือ สามารถนำเรื่องราว พระราชประวัติ ศึกษาเเละสามารถนำมาประยุกต์ใช้ดำเนินชีวิตประจำวันได้
8.อ่อนโยนเเต่ไม่อ่อนเเอ คือ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เข้มเเข็ง เเต่เป็นคนอ่อนโยน ช่วยเหลือประชาชนในยามลำบาก
9.คนเราจะต้องรับเเละจะต้องให้ คือ พระองค์ทรงเป็นผู้ให้ ทรงช่วยเหลือชาวเมือง บรรเทาทุกข์ บำรุงสุข เพื่อให้ชาวเมืองสุโขทัยได้อยู่ดีกินดี มีความสุข
ตัวหนังสือควรให้ตัวอักษรสมํ่าเสมอ
ตอบลบขอบคุณครับสำหรับ
ลบข้อคิดเห็น